.-.-. A I - K O .-.-.

nitchawan - ppuk - hinghoi - ssff   

older recent guestbook host design

ดำน้ำ // 2004-03-29

ไอโกะ

เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเราไปเช็งเม้งกันที่สระบุรี แล้วก็เลยไปเที่ยวพัทยากัน เพราะอาปักพาปักเม และโกพองกับเจ๊ผิงมาด้วย เราก็เลยไปเที่ยวทะเลกันแบบครอบครัวใหญ่ คราวก่อนที่เจ๊ผิงกับโกพองมา หนูยังเล็กมากไม่รู้จักเล่น แต่คราวนี้หนูพอเล่นเป็นแล้วก็เลยดูคึกคักเป็นพิเศษที่มีเด็กๆ มาเล่นด้วย แต่หนูก็คึกคักได้ไม่นาน เพราะท่าทางโกพองกับเจ๊ผิงไม่ค่อยอยากเล่นกับหนูเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะหนูยังเล็กกว่ามาก พูดก็ไม่ได้ เลยเล่นด้วยไม่สนุกมั้ง แม่คิดว่าบางทีการที่หนูงอแงมากช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งก็อาจจะเป็นเพราะหนูต้องการเรียกร้องความสนใจก็ได้

ไปพัทยาคราวนี้แม่พาหนูลงสระเอง จริงๆ แล้วตอนแรกกูโจ้พาหนูลงทะเล แต่คลื่นแรงมาก หาดทรายก็ชัน ทำให้หนูไม่สนุกกับทะเล ไม่เหมือนตอนที่เราไปกระบี่กัน คราวนั้นหนูสนุกกับการเล่นน้ำที่ชายหาดมาก พอเห็นว่าหนูไม่อยากเล่นน้ำทะเล แม่เลยชวนอาบีพาหนูไปเล่นน้ำสระกัน ที่สระน้ำหนูสนุกมาก ป๊าบอกให้แม่ลองจับหนูดำน้ำดู แม่นับหนึ่งสองสามแล้วก็จับหนูมุดใต้น้ำไม่กี่วินาที พอโผล่ขึ้นมาหนูก็ไม่สำลักน้ำและไม่ร้อง เป็นอันว่าหนูทำได้ค่ะ จริงๆ แล้วที่แม่กล้าลองก็เพราะว่าตอนไปกระบี่ หนูเล่นน้ำในอ่างแล้วลื่นผลุบลงไป แล้วหนูก็ตาลีตาเหลือกลุกขึ้นมา สำลักน้ำนิดหน่อย ท่าทางตกใจเล็กน้อย แต่แม่ไม่ได้ร้อง หนูก็เลยไม่กลัวเท่าไหร่ หลังจากที่เห็นว่าหนูพอดำน้ำได้ ป๊าก็เลยให้จับหนูมุดน้ำส่งไปให้อาบีรับ ระยะใกล้ๆ พอเอื้อมถึง ท่าทางหนูสนุกมาก เราเลยเล่นมุดน้ำ ดำน้ำกันใหญ่ เล่นกันตั้งนานจนหนูปากเขียว ตัวสั่นเลย ถึงได้ขึ้นจากน้ำ แม่คิดว่าแม่จะลองพาหนูไปเล่นที่สระในกรุงเทพฯ ดู ถ้าแม่ไม่ขี้เกียจ พาหนูไปได้บ่อยๆ แม่ว่าหนูคงจะฝึกว่ายน้ำได้ไม่ยากตอนที่หนูโตกว่านี้ เพราะแม่คิดว่าเด็กที่ฝึกว่ายน้ำได้ยาก ส่วนใหญ่เกิดจากความกลัว แม่จำได้ว่าตอนแม่กับอี๊นิจเล็กๆ บ้านเราอยู่ริมคลอง ทำให้เราไม่กลัวน้ำเลย แล้วเราก็ฝึกกันเองในหมู่เด็กๆ ดูไม่ยากเย็นเหมือนที่แม่เห็นเค้าฝึกกันตามสระเลย ถึงแม้ว่าท่าที่เราว่ายจะไม่มีรูปแบบตามสากล แต่แม่ว่ามันก็เป็นวิธีการเอาตัวรอดจากการจมน้ำได้ดี

ปล.1 เอาไว้โตๆ แม่จะให้หนูไปหัดดำน้ำจริงๆ กับอี๊นิจและคณะ

แกล้งแม่

แม่เริ่มจะคิดแล้วว่าที่ผ่านมาแม่คงจะเข้าใจผิดเรื่องที่คิดว่าหนูชิปเสีย เวลาจำอะไรที่แม่สอนไม่ได้ แม่คิดว่าหนูเริ่มเรียนรู้ที่จะเล่นแกล้งใครๆ เหมือนที่หนูถูกใครๆ แกล้งมาเยอะแล้วมากกว่า เพราะเมื่อสองสามคืนก่อน ตอนที่หนูเล่นๆ ไม่ยอมนอน หนูไปหยิบเอารูปแม่ที่อยู่หัวเตียงมาถือแล้วก็เอามาหอมใหญ่เลย แม่ถามว่านี่รูปใคร หนูก็ทำท่าอมยิ้มแล้วบอกว่า “โอะ” แม่บอกให้หนูดูดีๆ แล้วถามใหม่ว่ารูปใคร หนูก็อมยิ้มเหมือนเดิมแล้วก็บอกว่า “โอะ” แม่ถามย้ำตั้งสามสี่ครั้งหนูก็ตอบว่า “โอะ” เหมือนเดิม แม่เลยไปอาบน้ำ บอกให้ป๊ามาเล่นกับหนูแทน พออาบน้ำเสร็จ ออกมา ป๊าเล่าให้ฟังว่า ตอนที่แม่อาบน้ำ ป๊าถามหนูใหม่ว่า นี่รูปใคร หนูกลับตอบว่า “มะ” หนูเริ่มแกล้งแม่บ้างแล้วสิ

หนอนน้อยไอโกะ

เมื่อเช้านี้ หนูตื่นตีห้าเป็นปกติ ลุกขึ้นมาเกาะข้างเตียง แม่เลยลงไปนอนข้างเตียงกับหนู ให้หนูกินนม ปกติหนูก็จะกินๆ สักสิบนาทีแล้วก็หลับต่อ แต่วันนี้หนูกินเสร็จแล้วไม่หลับ แม่เลยเอาจุ๊บๆ ให้หนูดูดเล่น แม่ก็นอนเคลิ้มๆ จะหลับต่อ รู้สึกว่าหนูเตะขากลิ้งไปกลิ้งมาข้างๆ ตัว แล้วก็ได้ยินเสียงเล็กๆ “โจไต๋ย...โจไต๋ย...โจไต๋ย...” แม่เลยต้องอมยิ้มทั้งๆ ที่อยากจะหลับต่อ ป๊านอนอยู่บนเตียงอีกข้างได้ยินด้วย เลยชะโงกหน้าลงมา “โจไต๋ย..โจไต๋ย..” กับหนอนน้อยไอโกะด้วยเลย

ปล.2 เผื่อแม่จะลืม ถ้าหนูโตขึ้นมาอ่านไดอารี่แล้วไม่เข้าใจว่า“โจไต๋ย” คืออะไร มัน เป็นคำพูดภาษาญี่ปุ่นในโฆษณาชาเขียวมีหนอนน้อยเป็นตัวเอกถูกสะกดจิตน่ะ ตอนก่อนนอนกูเจินเป็นคนสอนให้หนูพูด หนูคงจะชอบ ตอนเช้าเลยพูดใหญ่เลย

prev // next