.-.-. A I - K O .-.-.

nitchawan - ppuk - hinghoi - ssff   

older recent guestbook host design

สามขวบ // 2005-11-14

ไอโกะ...

เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมานี้ หนูก็อายุครบสามขวบเต็มแล้ว แม่ยังจำได้อยู่เลยว่า คืนแรกที่หนูกลับมาบ้าน หนูร้องทั้งคืน ทำเอาแม่กับป่าป๊าไม่ได้หลับไม่ได้นอน เครียดกันทั้งคู่ วันนั้นแม่นั่งร้องไห้ ได้แต่คิดว่าแม่จะเลี้ยงหนูได้ยังไงน้า แล้วดูสิเผลอแป๊บเดียว หนูก็สามขวบแล้ว แถมยังมีน้องโอกิอีกคนด้วย คราวนี้แม่ก้ได้แต่ฝันต่อว่าเมื่อไหร่โอกิจะโตเท่าหนูเสียที

ตั้งแต่หนูเริ่มปรับตัวได้กับการมีน้องชาย (ภาษาพม่าเรียกว่า “เหม่าเล”) อีกคนที่ต้องมาแบ่งปันความรักของแม่กับป่าป๊า แม่ยิ่งรู้สึกว่าหนูโตขึ้นมาก หนูรู้เรื่องต่างๆ มากขึ้น ช่างพูดช่างอธิบาย รู้จักแสดงความเจ้าเล่ห์แบบเด็กๆ อยากรู้เรื่องโน้นเรื่องนี้ไปหมด จนแม่คิดว่าถึงเวลาที่หนูควรจะต้องไปโรงเรียนได้จริงๆ แล้ว เพราะแม่รู้สึกว่าหนูพร้อมที่จะเรียนรู้การอยู่ในสังคมกับคนอื่นๆ แทนที่จะเป็นคนในครอบครัวเท่านั้นเหมือนที่ผ่านมา แม่คุยเรื่องนี้กับป่าป๊า ป่าป๊าเลยคิดว่าถ้าป่าป๊าว่าง จะพาหนูไปเที่ยวที่โรงเรียนเพื่อทำความคุ้นเคยก่อน แล้วถ้าโรงเรียนยอม ก็อาจจะให้หนูเริ่มไปโรงเรียนเทอมนี้เลย ไม่รอถึงเปิดเทอมปีการศึกษาหน้าก็ได้

หนูชอบเรียกน้องว่า “ไอ้เจ้าหนูน้อย...ไอ้เจ้าหนูน้อย” แล้วก็ทำท่ามันเขี้ยวอยากจะฟัดแรงๆ แม่ต้องคอยห้ามอยู่บ่อยๆ แม่ไม่รู้ว่าทำไมหนูเรียกน้องแบบนี้ แม่ก็เลยเรียกหนูว่า “ไอ้เจ้าหนูใหญ่” บ้าง แต่อาเน่บอกว่าหนูบอกว่า หนูเป็น “ไอ้เจ้าหนูกลาง” แล้วอาเน่เป็น “ไอ้เจ้าหนูใหญ่”

เดี๋ยวนี้แทนที่หนูจะจับแขนแม่นอน ก็กลายเป็นไปจับข้อศอกป่าป๊าแทน เมื่อก่อนแม่รู้สึกรำคาญเวลาหนูคอยจับแขนแม่ทั้งคืน แต่ตอนนี้แม่กลับรู้สึกคิดถึง แล้วแม่ก็รู้สึกว่าแม่ไม่มีเวลากอดหนู เล่นกับหนู หรืออ่านหนังสือให้หนูฟังเลย เพราะน้องโอกิต้องกินนมแม่ เวลาส่วนใหญ่ของแม่ก็จะต้องอยู่กับโอกิ เหมือนกับตอนที่หนูเกิดใหม่ๆ แม่ก็อยู่กับหนูตลอดเวลาแบบนี้เหมือนกัน แต่ตอนนั้นแม่มีหนูคนเดียว แม่เลยไม่รู้สึกอะไร แต่ยังไงก็ตาม แม่คิดว่าหนูรับมือกับสถานการณ์นี้ได้ดีมากทีเดียว หลังจากที่หนูปรับตัวได้แล้ว ดูเหมือนหนูจะเข้าใจแล้วว่าแม่ต้องดูแลน้องมากกว่าหนู หนูก็เลยไม่ค่อยเรียกร้องอะไรจากแม่มาก แต่หนูจะไปหาคนอื่นแทน โดยเฉพาะป่าป๊ากับป้าจิน

นอกจากที่แม่รู้สึกว่าหนูโตขึ้นมากแล้ว ภาษาพม่าและภาษาไทยที่หนูใช้ก็พัฒนาขึ้นมากๆ ด้วย ถึงแม้หนูจะไม่ค่อยพูดภาษาพม่าเท่าไหร่ แต่เวลาที่ป้าจินพูดกับหนู แล้วแม่ให้แปลให้ฟัง หนูก็ทำได้ดีทีเดียว อย่างวันก่อนหนูนั่งกินขนมอยู่ใกล้ๆ แม่กับน้อง ป้าจินเดินผ่านมาแล้วก็พูดอะไรไม่รู้ยาวเชียว หนูก็พยักหน้า แม่เลยถามหนูว่าป้าจินว่าอะไร หนูหันมาบอกแม่ว่า “จี่จี๊บอกว่า กินขนมอย่าให้หกนะ เดี๋ยวมดขึ้นน้อง” แม่ฟังแล้วก็ทึ่ง เลยไปเล่าให้ป่าป๊าฟังว่าเออ ดูสิ ทำไมหนูรู้จักใช้คำว่า มด “ขึ้น” แทนที่จะเป็นมดกัดหรืออะไร ป่าป๊าบอกว่า มันเป็นธรรมชาติแหละ หนูก็พูดตามอย่างที่เคยชิน เคยใช้ ไม่ได้คิดมากเหมือนผู้ใหญ่อย่างเราๆ หรอก

ตอนวันเกิดหนูก็เหมือนกัน ป่าป๊าซื้อไอศกรีมเค้กมาให้ เสร็จแล้วก็ตัดให้ป้าจินกินด้วย ตอนที่บอกให้หนูส่งให้ป้าจิน ป่าป๊าก็บอกว่าให้พูดกับป้าจินเป็นภาษาพม่านะ หนูก็ส่งให้แล้วก็พูดว่า “จี่จี๊เย่าะ” แล้วทุกคนก็ถามหนูว่า หนูพูดกับจี่จี๊ว่าอะไร หนูก็แปลให้ฟังว่า “จี่จี๊..อ่ะ” คนฟังขำแทบหงายหลังแน่ะ ภาษาวัยรุ่นสมัยนี้ก็ต้องว่า “คิดได้ไง”

เวลาที่เราเรียนภาษาอื่นนอกจากภาษาแม่ วิธีหนึ่งที่จะใช้พิสูจน์ว่ารู้ลึก รู้จริงหรือยังก็คือ เราฝันเป็นภาษานั้นหรือยัง ถ้าใช้วิธีนี้กับหนูก็คงรู้จริงแล้วมั้ง เพราะเมื่อคืนนี้หนูละเมอเป็นภาษาพม่าแล้วว่า “โฮหม่า...โฮหม่า”

prev // next