.-.-. A I - K O .-.-.

nitchawan - ppuk - hinghoi - ssff   

older recent guestbook host design

ภูมิใจ // 2006-03-26

ไอโกะ...

แม่ไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้หนูเลิกร้องไห้งอแงเสียที ทำไมหนูถึงเป็นเด็กที่บ่อน้ำตาตื้นขนาดนี้ก้ไม่รู้ บางทีแม่ก็สงสัยตัวเองเหมือนกันว่าแม่ทำอะไรผิดไปตรงไหน เลี้ยงยังไงทำไมหนูถึงร้องไห้เก่งเหลือเกิน ถ้าถูกดุแล้วร้องไห้ แม่ก็ยังพอทำใจรับได้ แต่หลายๆ เรื่องที่ไม่เห็นว่าจะน่าร้องตรงไหน หนูก็ยังร้องนี่สิ ทำเอาแม่หงุดหงิดจริงๆ อย่างเมื่อคืนก่อน แม่อ่านหนังสือให้หนูฟังเสร็จแล้วหนูอยากนอน ก็เลยบอกป่าป๊าว่า “ไอโกะอยากจับข้อศอกป่าป๊า” (ตั้งแต่มีน้องโอกิ แม่ก็ต้องคอยดูแลน้อง ป่าป๊าเลยต้องรับหน้าที่ให้หนูจับแขนนอนแทน) พอดีป๊านั่งทำงานอยู่ แม่เลยบอกว่า “จับข้อศอกหม่าม้าก็ได้นี่” หนูก็บอกว่า “ไม่เอา ไอโกะอยากจับข้อศอกป๊า” แม่เลยแกล้งถามว่า “ทำไมไอโกะไม่อยากจับข้อศอกหม่าม้าล่ะ หม่าม้าเสียใจนะเนี่ย ฮือๆ” ยังไม่ทันขาดคำเลย หนูก็น้ำตาร่วงเผาะแล้วก็บอกว่า “ก็ข้อศอกป่าป๊านิ่มกว่า” ทีนี้เลยปลล่อยโฮๆ ไม่ยอมหยุดเลย แม่จะบ้าตาย บางทีก็แค่ถามอะไรนิดๆ หน่อยๆ ก็ร้องไห้เฉยเลย แม่คิดว่าตอนเด็กๆ แม่ก็เป็นเด็กขี้แยเหมือนกัน แต่ชักไม่แน่ใจแล้วว่าใครจะหนักกว่ากันระหว่างหนูกับแม่

แม่ก็ได้แต่หวังว่าโตขึ้น หนูจะร้องไห้น้อยลงนะ แต่ถึงจะขี้แงยังไง หนูก็ยังมีเรื่องให้แม่ภูมิใจอยู่เสมอ อย่างล่าสุดเมื่อตอนหัวค่ำ หนูปีนโซฟาเล่น แล้วหล่นลงไปด้านหลัง หนูรีบปีนขึ้นมา ไม่ร้องไห้แต่พูดว่า “ไอโกะอดทน ไอโกะอดทน” แม่ฟังแล้วก็ขำ เลยถามป่าป๊าว่า ทำไมหนูพูดแบบนั้น ป่าป๊าเลยเล่าให้ฟังว่า ป่าป๊าเคยสอนหนูว่าเวลาเจ็บก็ต้องรู้จักอดทน ไม่ร้องไห้ เมื่อตอนกลางวันป่าป๊าเจ็บมือ แกล้งร้องไห้ หนูก็รีบบอกป่าป๊าว่า “ป่าป๊าอย่าร้องสิ ป่าป๊าอดทนสิ” ป่าป๊าหัวเราะแล้วก็นึกได้ว่า เมื่อเช้านี้ที่ร้านก๋วยเตี๋ยว หนูตกเก้าอี้ ร้องไห้แงๆ เลยถามหนูว่า “อ้าว เมื่อเช้านี้ ไอโกะตกเก้าอี้ ทำไมไม่อดทน ร้องไห้ทำไม” หนูจำได้ แต่แกล้งทำเป็นไม่สนใจ เปลี่ยนเรื่องไปเลย พอกลางคืนตกนิดหน่อยไม่เจ็บ เลยทำเป็นพูดดี “ไอโกะอดทน ไอโกะอดทน”

อีกเรื่องหนึ่งก็เมื่อหลายอาทิตย์ก่อน แม่กับป่าป๊าพาหนูไปที่คาร์ฟูร์ เอารถเข็นเก่าไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่า แล้วก็เลยเดินดูของอื่นที่มีคนเอามาขาย ไอโกะเห็นชุดของเล่นพลาสติกที่เป็นอุปกรณ์ทำครัวเลยหยิบขึ้นมาแล้วก็บอกว่า “หม่าม้าดูนี่” แม่หยิบมาดูแล้วก็รู้สึกว่ามันแพง (สองร้อยกว่าบาทมั้ง) กว่าที่ควรจะเป็น ก็เลยรีบบอกหนูว่า “ไม่เอาหรอกไอโกะ อันนี้มันแพง เดี๋ยวหม่าม้าไปดูที่อื่นให้” แต่หนูกลับบอกแม่ว่า “หม่าม้า...ไอโกะไม่ได้จะเอา ไอโกะดูเฉยๆ” แหม ฟังแล้วชื่นใจจริงๆ พอชดเชยกับเวลาที่หนูดื้ออยากได้อะไร แล้วพอแม่ไม่ให้ ก็พูดเป็นแผ่นเสียงตกร่องว่า “ไอโกะอยากได้ ๆ ไอโกะจะเอาๆ” ไปได้บ้าง

เรื่องสุดท้ายก็เรื่องที่หนูกับเจ๊ผิงแย่งของเล่นกัน เนื่องจากเจ๊ผิงเป็นลูกคนเล็ก (แต่เป็นพี่ไอโกะสองปี) มีแต่คนตามใจ แล้ววิธีการเลี้ยงลูกของพ่อแม่เจ๊ผิงก็ต่างกับแม่และป๊าแบบคนละขั้วกันอีกต่างหาก พอดีว่าปิดเทอมคราวนี้เจ๊ผิงมาอยู่บ้านเราหลายวัน ด้วยความที่หนูเด็กกว่า ก็ไม่ค่อยจะทันเจ๊ผิงเท่าไหร่ เล่นอะไรกันก็ดูเหมือนจะเป็นลูกไล่เสียมากกว่า ก่อนที่เจ๊ผิงจะมา แม่กับป่าป๊าก็จะคอยพูดกับหนูบ่อยๆว่า ต้องไม่แย่งของเล่นกัน ถ้าเจ๊ผิงอยากเล่นอะไร ไอโกะก็ต้องให้เจ๊ผิงเล่น ต้องแบ่งกัน เพราะไอโกะเป็นเจ้าของบ้าน เล่นเมื่อไหร่ก็ได้ แล้วก็มีเหตุการณ์แย่งของเล่นกันจนได้ ป่าป๊าเป็นคนเห็นแล้วมาเล่าให้แม่ฟัง ป่าป๊าบอกว่าหนูจะเล่นตุ๊กตาบาร์บี้ แล้วเจ๊ผิงก็จะเอาตัวเดียวกัน เจ๊ผิงก็ดึง หนูก็ไม่ปล่อย “เจ๊ผิงเล่นก่อน” “ไอโกะเล่นก่อน” ป่าป๊าก็สังเกตการณ์อยู่ห่างๆ กำลังคิดว่าจะห้ามทัพยังไงดีก็พอดีว่าไอโกะปล่อยก่อน แล้วก็พูดว่า “เจ๊ผิง..ไอโกะ..เจ๊ผิง..ไอโกะ..เจ๊ผิง...ไอโกะนะ” หนูรู้จักแก้ปัญหาด้วยการยอมก่อน แม่รู้สึกภูมิใจจริงๆ

prev // next